คุณสมบัติของสมาชิก สมาชิกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
2. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ และมีสัญชาติไทย
3. (ก.) เป็นข้าราชการครูหรือข้าราชการพลเรือน หรือลูกจ้างประจำ หรือพนักงาน
บริการ หรือครูสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัดนครราชสีมา
หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา หรือหอสมุดแห่งชาติ
เฉลิมพระเกียรติ ร.9 นครราชสีมา หรือวิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา
หรือสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา หรือมหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา หรือสำนักงานวัฒนธรรม
จังหวัดนครราชสีมา หรือสำนักงานศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา หรือพิพิธภัณ
ฑสถานแห่งชาติพิมาย หรือหน่วยงานที่เคยสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัด
นครราชสีมา หรือ
(ข.) เป็นพนักงานครูหรือลูกจ้างประจำ กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ในสังกัดองค์การ บริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา หรือเป็นพนักงานครู
หรือลูกจ้างประจำ ในสังกัดสำนักงานการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา หรือ
(ค.) เป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างประจำในสหกรณ์นี้ หรือ
(ง.) เป็นข้าราชการบำนาญซึ่งเคยรับราชการ หรือปฏิบัติงานใน(3)ก.หรือ ข. และรับ
บำนาญในจังหวัดนครราชสีมา หรือ
(จ.) เป็นพนักงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครู
นครราชสีมา จำกัด (ส.ส.นม.) สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์บุคลากร
ทางการศึกษาและสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด (ส.ฌ.นม.)
สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด
และบุคลากรทางการศึกษานครราชสีมา (ฌ.ส.นม.)
4. เป็นผู้มีความประพฤติดี
5. มิได้เป็นสมาชิกในสหกรณ์อื่น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงิน
6. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
7. ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
8. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
การพิจารณาเข้าเป็นสมาชิก
ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก (รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นซึ่งประสงค์จะขอ
เข้าเป็นสมาชิก) ตามข้อบังคับ ต้องยื่นใบสมัครถึงสหกรณ์ ตามแบบที่กำหนดไว้
โดยต้องมีผู้บังตับบัญชาของผู้สมัครคนหนึ่งรับรอง สำหรับผู้สมัครที่เป็นข้าราช
การบำนาญ ต้องให้หัวหน้าส่วนราชการ ผู้เบิกจ่ายเงินบำนาญเป็นผู้รับรอง
เมื่อคณะกรรมการดำเนินการ ได้สอบสวนพิจารณาปรากฏว่าผู้สมัครมีลักษณะ
ถูกต้องตามที่กล่าวไว้ในคุณสมบัติของสมาชิก ทั้งเห็นเป็นการสมควรแล้วก็ให้รับ
เข้าเป็นสมาชิกได้ แล้วเสนอเรื่องการรับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ ให้ที่ประชุมใหญ่ทราบ
ในการประชุมคราวต่อไป
ถ้าคณะกรรมการดำเนินการไม่ยอมรับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกด้วยเหตุใดๆ ก็ดี
เมื่อผู้สมัครร้องขอ ก็ให้คณะกรรมการดำเนินการนำเรื่องเสนอที่ประชุมใหญ่ เพื่อ
วินิจฉัยชี้ขาดตามมติที่ประชุมใหญ่ให้รับเข้าเป็นสมาชิกในกรณีดังกล่าวนี้ ต้องมี
คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามแห่งจำนวนสมาชิกที่ประชุม
การรับสมัคร
1. ไม่เคยเป็นสมาชิกมาก่อนสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้เลย
2. กำหนดหลักเกณฑ์ในการขอกลับเข้าเป็นสมาชิก ดังนี้
2.1 กรณีสมาชิกที่ลาออกหรือถูกโอนให้ออก ไม่มีหนี้ค้างชำระกับสหกรณ์
(1.) สมาชิกที่ลาออกหรือถูกโอนให้ออก 1 ครั้ง ครบ 1 ปี ต้องชำระค่าหุ้น
แรกเข้า 5,000 บาท
(2.) สมาชิกที่ลาออกหรือถูกโอนให้ออก 1 ครั้ง ยังไม่ครบ 1 ปี ต้องชำระค่าหุ้น
แรกเข้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนเงินค่าหุ้นที่มีอยู่ในสหกรณ์ก่อน
ลาออก หรือถูกโอนให้ออก
(3.) สมาชิกที่ลาออกหรือถูกโอนให้ออก 2 ครั้งขึ้นไป ครบ 1 ปี ต้องชำระค่าหุ้น
แรกเข้า 10,000 บาท
(4.) สมาชิกที่ลาออกหรือถูกโอนให้ออก 2 ครั้งขึ้นไป ยังไม่ครบ 1 ปี ต้องชำระค่า
หุ้นแรกเข้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนเงินค่าหุ้นที่มีอยู่ในสหกรณ์ก่อน
ลาออก หรือถูกโอนให้ออก
(5.) การถือหุ้นรายเดือนต้องเป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบสหกรณ์
2.2 กรณีสมาชิกที่ถูกโอนให้ออก มีหนี้ค้างชำระกับสหกรณ์
(1.) ต้องชำระค่าหุ้นแรกเข้า 3,000 บาท
(2.) ต้องชำระค่าหุ้นและค่าธรรมเนียมแรกเข้า และถือหุ้นรายเดือนตามข้อบังคับ
และระเบียบสหกรณ์
(3.) การกู้เงินสหกรณ์ให้เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วย การให้เงินกู้แก่
สมาชิก กรณีแก้ไขปัญหาหนี้สินค้างชำระ
3. การรับสมัครสมาชิกสหกรณ์อื่น
สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ทั้งที่อยู่ในท้องที่เดียวกัน หรือย้ายมารับราชการใน
ท้องที่ดำเนินงานของสหกรณ์ หากประสงคจะสมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ยื่นใบสมัครถึง
สหกรณ์ตามแบบที่กำหนดไว้ และจะได้สิทธิในฐานะสมาชิก ตั้งแต่วันที่ได้ลงลายมือ
ชื่อในทะเบียนสมาชิก กับได้ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า และสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิก
อยู่เดิมได้โอนเงินค่าหุ้นให้สหกรณ์นี้แล้ว
การรับโอนเงินค่าหุ้น และการปฏิบัติเกี่ยวกับหนี้สินของสมาชิกที่มีอยู่ในสหกรณ์
เดิมนั้น ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของสหกรณ์
4. กรณีโอนสมาชิกระหว่างสหกรณ์
ให้เป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วยการโอนสมาชิกระหว่างสหกรณ์
4.1 ผู้สมัคร มีหุ้นคงเหลือมาจากสหกรณ์อื่น
4.1.1 ผู้สมัครติดต่อสหกรณ์เดิม เพื่อแจ้งโอนย้าย
4.1.2 ผู้สมัครยื่นใบสมัครสมามชิก กรณีโอนย้ายระหว่างสหกรณ์
4.1.3 เมื่อคณะกรรมการดำเนินการพิจารณาแล้ว หากรับเป็นสมาชิกสหกรณ์จะ
ดำเนินการทำเรื่องขอรับเงินค่าหุ้นของผู้สมัครไปยังสหกรณ์เดิม
4.2 ผู้สมัคร มีหนี้คงเหลือมาจากสหกรณ์อื่น
4.2.1 ผู้สมัครติดต่อสหกรณ์เดิม เพื่อแจ้งโอนย้าย
4.2.2 ผู้สมัครดำเนินการติดต่อสหกรณ์ เพื่อคำนวณสิทธิกู้โอนย้ายระหว่างสหกรณ์
ก่อน โดยยื่นเอกสารดังต่อไปนี้
(1) สลิปเงินเดือน
(2) หนังสือรับรองภาระหนี้สินของธนาคารออมสิน (สามารถติดต่อขอรับแบบ
ฟอร์มเอกสารได้ที่สหกรณ์)
(3) หนังสือแจ้งรายละเอียดหุ้นและหนี้คงเหลือจากสหกรณ์ดิม
4.2.3 หากคำนวณสิทธิกู้ โอนย้ายระหว่างสหกรณ์เรียบร้อยแล้ว สามารถกู้ได้ตาม
ระเบียบ ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครสมาชิก กรณีโอนย้ายระหว่างสหกรณ์
4.2.4 เมื่อคณะกรรมการดำเนินการพิจารณาแล้ว หากรับสมัครสมาชิก ให้ยื่นกู้เงินกู้
สามัญ ทั้งนี้ สหกรณ์จะดำเนินการประสานโอนชำระหนี้ให้กับสหกรณ์เดิม
โดยผู้สมัครไม่ต้องดำเนินการเอง
หมายเหตุ
1. ผู้สมัครสมาชิก กรณีโอนย้ายระหว่างสหกรณ์ ต้องมีอายุไม่เกิน 56 ปี
2. สหกรณ์ไม่นับอายุสมาชิกต่อจากสหกรณ์เดิม
เอกสารประกอบการสมัคร
1. คำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์ตามแบบที่สหกรณ์ฯ กำหนด โดยมีความเห็น
ของผู้บังคับบัญชาขั้นต้น/หัวหน้าหน่วยงานลงนาม
2. สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาใบสำคัญการสมรส/หย่า/มรณบัตร/เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล(ถ้ามี)
6. สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
7. หนังสือรับรองเงินดือน (ฉบับจริง)
8. สำเนารายละเอียดการจ่ายเงินเดือน (สลิปเงินเดือน) เดือนล่าสุด
รับรองสำเนาโดยผู้บังคับบัญชา
9. ทะเบียนประวัติ กพ.7 รับรองสำเนาโดยฝ่ายบุคคลของหน่วยงาน (กรณีผู้สมัคร
เป็นพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา ต้องแนบเอกสารสำเนาสัญญาจ้างเพิ่มเติม โดย
ผู้บังคับบัญชาลงนามรับรอง ซึ่งสัญญาจ้างต้องมีกำหนดจนครบเกษียณอายุราชการ)
10. กรณีเป็นครู รร.เอกชน ให้แนบสำเนาเอกสารเพิ่มเติม ต่อไปนี้
10.1 หนังสือขอความอนุเคราะห์สมัครเข้าเป็นสมาชิกที่ระบุว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
ระเบียบข้อบังคับ ของสหกรณ์ฯ และยินดีรับผิดชอบหักเงินชำระค่าหุ้น
และหนี้นำส่งต่อสหกรณ์ฯ ลงนามโดยผู้จัดตั้ง รร. หรือ ผอ.รร. ที่ได้รับมอบ
หมาย
10.2 สมุดประจำตัวครู
10.3 สช.11
10.4 สช.19/หนังสือแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่
10.5 หนังสืออนุญาตให้จัดตั้ง รร.
10.6 หนังสืออนุญาตให้เป็นครูใหญ่หรือ ผอ.รร.
11. หนังสือรับรองภาระหนี้ของสถาบันการเงิน
12. กรณีขอกลับเข้าเป็นสมาชิกอีกครั้ง (เคยออกจากสมาชิก) และกรณีโอนย้ายระหว่าง
สหกรณ์ฯ ต้องแนบหนังสือรับรองภาระหนี้ของธนาคารออมสิน และสถาบันการเงิน
อื่น (ถ้ามี)
ขั้นตอนการดำเนินการ
1. ยื่นเอกสารตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนภายในวันที่ 5 ของเดือน เพื่อให้เจ้า
หน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูล (กรณียื่นหลังวันที่ 5 จะดำเนินการในเดือนถัดไป)
2. เจ้าหน้าที่นำเสนอที่ประชุมประจำเดือน
3. หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม จะเรียกเก็บเงินค่าหุ้นงวดแรกพร้อมค่าธรรมเนียม
แรกเข้าในเดือนถัดไป
4. เมื่อทางสหกรณ์ฯ ได้ดำเนินการหักค่าหุ้นงวดแรกและค่าธรรมเนียมแรกเข้าเรียบร้อย
แล้วให้สมาชิกดำเนินการเปิดบัญชีเงินฝากสหกรณ์ฯ และสมัครประกันชีวิตกลุ่มตาม
โครงการที่สหกรณ์ฯ กำหนดได้
การขอลาออกจากสหกรณ์ฯ
- สมาชิกที่ประสงค์จะลาออกจากสหกรณ์ฯ ต้องยื่นคำร้อง ขอลาออกตามแบบที่
สหกรณ์ฯ กำหนด ภายในวันที่ 1 ของทุกเดือน เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ
ดำเนินการประจำเดือนเพื่อทราบและพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินค่าหุ้นคืนแก่สมาชิก
ในวันสิ้นเดือนนั้น โดยต้องเข้าเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
1. ต้องไม่มีหนี้สินผูกพันกับสหกรณ์ฯ
2. กรณีมีหนี้ ต้องมีเงินค่าหุ้นมากกว่าหนี้
3. ต้องไม่มีภาระผูกพันในฐานะผู้ค้ำประกันสมาชิกสหกรณ์ฯ (ไม่่ติดค้ำประกัน)
4. ต้องไม่มีบัญชีเงินฝากของสหกรณ์ฯ
การออกจากสหกรณ์ฯ
เหตุที่สมาชิกต้องออกจามสหกรณ์ สมาชิกต้องออกจากสหกรณ์เพราะเหตุใดๆ
ดังต่อไปนี้
1. ตาย
2. เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
3. ลาออกจากสหกรณ์
4. ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย
5. ขาดคุณสมบัติตามข้อ 34 (3) โดยมีความผิด
6. ถูกให้ออกจากสหกรณ์
7. ได้รับโทษจำคุกโดยพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับ
ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
**กรณีสมาชิกของสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสมทบต้องขาดจากการ
เป็นสมาชิกภาพ เพราะเหตุใดๆ ตามที่กำหนดในข้อบังคับ อาจเป็นเหตุให้สมาชิก
สมทบรายนั้นต้องขาดจากสมาชิกภาพได้ ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ
การให้ออกจากสหกรณ์ฯ
สมาชิกอาจถูกให้ออกจากสหกรณ์เพราะเหตุใดๆ ดังต่อไปนี้
1. ไม่ลงรายมือชื่อในทะเบียนสมาชิก หรือไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า
หรือถือหุ้นครั้งแรก
2. ขาดชำระหุ้นรายเดือนถึงสามงวดติดต่อกัน หรือขาดชำระรวมถึงหกงวด ทั้งนี้โดย
มิได้รับอนุญาติจากคณะกรรมการดำเนินการกำหนด
3. นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
4. ไม่จัดการแก้ไขหลักประกัน(สำหรับเงินกู้) ที่เกิดบกพร่องให้คืนดีภายในระยะเวลา
ที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
5. ค้างส่งเงินงวดชำระหนี้ เป็นเวลาถึงสามเดือน หรือผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้
ดังว่านั้นถึงสี่คราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่งๆ
6. ไม่ให้ข้อความจริงเกี่ยวกับหนี้สินของตนแก่สหกรณ์เมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก
หรือเมื่อจะก่อความผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์ในฐานะผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกัน
หรือเมื่อมีความผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์อยู่แล้ว
7. จงใจฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบ หรือมติของสหกรณ์ หรือประพฤติการใดๆ อันเป็น
เหตุให้เห็นว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสหกรณ์ไม่ว่า
โดยประการใดๆ
**เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณาปรากฏว่าสมาชิกมีเหตุใดๆ ดัง
กล่าวข้างต้นนี้ และได้ลงมติให้สมาชิกออกโดยคะแนนเสียง ไม้น้อยกว่าสองในสาม
ของกรรมการดำเนินการสหกรณ์นั้น ก็ถือเป็นอันถือว่าสมาชิกนั้นถูกให้ออกจาก
สหกรณ์
*****************
|