1. เกณฑ์การจ่าย
การจ่ายเงินสวัสดิการบำเหน็จ เมื่อสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์ฯ (31 ธันวาคม ของทุกปี) นั้นให้จ่ายสมาชิกผู้ที่มีอายุการเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี ดังนี้
1.1 จ่ายให้สมาชิกที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ (ในปีนั้น) โดยไม่ต้องยื่นเอกสารขอรับเงิน
1.2 จ่ายให้ทายาทเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม
1.3 กรณีที่สมาชิกได้รับเงินสวัสดิการบำเหน็็จ ตามข้อ (1) แล้ว ไม่มีสิทธิ ได้รับเงินตามข้อ (2)
2. เกณฑ์การคิดเงินสวัสดิการบำเหน็จให้คำนวณจ่ายโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ร้อยละ 70 ของเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิก ให้นับรวมอายุการเป็นสมาชิกสหกรณ์ของผู้ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และผู้ที่ถึงแก่กรรมในรอบปีทางบัญชีสหกรณ์ นำไปหารจำนวนเงินเป็นเฉลี่ยรายปี แล้วนำไปคูณอายุการเป็นสมาชิกของแต่ละคน เพื่อเป็นเงินสวัสดิการบำเหน็จที่สมาชิกจะได้รับ
ส่วนที่ 2 ร้อยละ 30 ของเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิก ให้นำมาคำนวณเพื่อจ่ายเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิก ดังนี้
(1) ให้นำเงินค่าหุ้นของสมาชิกที่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการบำเหน็จมารวมกัน
แล้ว นำไปหารจำนวนเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิกที่มีอยู่ เพื่อหาส่วน
เฉลี่ยแล้วนำไปคูณจำนวนของหุ้นของสมาชิกแต่ละคนเป็นจำนวนเงิน
สวัสดิการบำเหน็จสมาชิกที่สมาชิกจะได้รับ
(2) หุ้นที่เกิดจากการซื้อหุ้น จะใช้เป็นฐานคิดเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิก
ต้องผ่านการซื้อหุ้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ยกเว้นหุ้นที่ส่งรายเดือน
ตามปกติ
(3) จำนวนเงินสวัสดิการบำเหน็จสมาชิกที่สมาชิกแต่ละคนจะได้รับ ต้องไม่
เกินจำนวนเงินสองแสนบาท
3. การยื่นขอรับเงินสวัสดิการบำเหน็จ สำหรับทายาทสมาชิกที่ถึงแก่กรรม
ให้ทายาทของสมาชิกที่ถึงแก่กรรมในระหว่างปี ยื่นเรื่องขอรับเงินต่อสหกรณ์ภายในสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์ฯ ตามแบบที่สหกรณ์ กำหนด ทายาทสามารถยื่นขอรับเงินภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ถึงแก่กรรม หากพ้นกำหนดภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าไม่มีสิทธิรับเงินสวัสดิการบำเหน็จ
*หมายเหตุ* เงินสวัสดิการบำเห็จสมาชิก ในปี 2565 สหกรณ์ฯ จะโอนเข้าบัญชีของสมาชิกสหกรณ์ฯ ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2566
*****************
|