เงินกู้สามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ (สพ)

                                                                                        Download ระเบียบ (ฉบับที่ 1)
                                                                                        Download ระเบียบ (ฉบับที่ 2)

      ก. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิกู้ได้
            1. เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน และต้องผ่านการอบรมสมาชิกเข้าใหม่
            2. ต้องเป็นสมาชิกที่ไม่ผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ในรอบ 12 งวด ย้อนหลัง
            3. สมาชิกต้องส่งชำระหนี้คืนโดยต้นเงินเท่ากันทุกงวดพร้อมดอกเบี้ย และมี
                สัดส่วนหนี้รายเดือนต่อเงินได้รายเดือนไม่เกินร้อยละ 70 ตลอดอายุสัญญา
                ทั้งนี้ต้องแสดงหลักฐานการหักเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน โดยมีผู้บังคับบัญชา
                ชั้นต้นเป็นผู้รับรอง
            4. ต้องมีเงินค่าหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของเงินกู้ ซึ่งหุ้นดังกล่าวนี้อาจเป็นหุ้น
                โดยการชำระปกติหรือหุ้นที่เกิดจากการซื้อหรือการหักหุ้นจากเงินกู้

      ข. สมาชิกที่ถูกจํากัดสิทธิกู้ ดังนี้  
            1. สมาชิกที่ไม่มีต้นสังกัดหักเงินส่งสหกรณ์ฯ
            2. สมาชิกสังกัดโรงเรียนเอกชน
            3. สมาชิกกู้รวมหนี้โดยรวมหนี้สามัญเพื่อพัฒนาอาชีพแล้วก่อนระเบียบนี้

      ค. สิทธิสมาชิกกู้สามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ  
            สมาชิกกู้ได้ไม่เกินรายละ 800,000 บาท

      ง. การส่งชำระหนี้สำหรับเงินกู้สามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ
            1. สมาชิกที่เป็นข้าราชการ หรือข้าราชการบํานาญ หรือลูกจ้างบําเหน็จรายเดือน
                ส่งชําระหนี้ได้สูงสุดไม่เกิน 200 งวด และต้องส่งชําระหนี้ ให้เสร็จสิ้นภายใน
                อายุ 75 ปีต้องส่งชำระหนี้ให้
            2. กรณีลูกจ้างประจำและพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา ส่งชําระหนี้ได้สูงสุดไม่
                เกิน 200 งวด แต่ทั้งนี้ สมาชิกต้องชําระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในวันเกษียณอายุ
                งาน

      จ. การค้ำประกันเงินกู้สามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ  
            สมาชิก 1 คน สามารถใช้สิทธิค้ำประกันเงินกู้ได้ไม่เกิน 2 สัญญา

      ฉ. คำขอกู้เงินสามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ ของสมาชิกนั้นต้องได้รับความเห็นชอบ ดังนี้  
            1. ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของสมาชิก
            2. หัวหน้าสถานศึกษา หรือหัวหน้าหน่วยงานทางการศึกษาให้รับรองตนเองได้
            3. ข้าราชการบำนาญให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้บังคับ
                บัญชาของหน่วยหักเงิน หรือหัวหน้าหน่วยงานทางการศึกษาเดิม หรือ
                กรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ เป็นผู้รับรอง

      ช. เอกสารประกอบคำขอกู้เงิน  
            1. คำขอกู้เงินสามัญเพื่อพัฒนาอาชีพ
            2. หนังสือยินยอมให้ต้นสังกัดหักเงินชำระหนี้ จำนวน 2 แผ่น
            3. หน้าสมุดบัญชีธนาคาร สำหรับโอนเงินกู้ส่วนที่เหลือเข้าบัญชีให้สมาชิก
            4. สลิปเงินเดือนของผู้กู้ 3 เดือนย้อนหลัง โดยให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นรับรอง
                ดังนี้
                 - กรณีข้าราชการครู ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรับรองสลิป
                 - กรณีข้าราชการครูสังกัดเทศบาล ให้ผู้อำนวยการกองคลังรับรองสลิป
                 - กรณีข้าราชการบำนาญสังกัด อบจ. ให้หัวหน้าฝ่ายการเงินหน่วย อบจ.
                   รับรองสลิป
                 - กรณีข้าราชการบํานาญ ให้ผู้อํานวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ
                   หัวหน้ากลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ฯ รับรองสลิป
                 - กรณีครูโรงเรียนเอกชน ให้ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้รับรองสลิป
            5. บัตรประจําตัวของผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            6. ทะเบียนบ้านของผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            7. บัตรประจําตัวของคู่สมรสผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            8. ทะเบียนบ้านของคู่สมรสผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            9. ใบทะเบียนสมรสของผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            10. ใบทะเบียนหย่าของผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน พร้อมสำเนา
            11. ใบเปลี่ยนชื่อสกุล (ถ้ามี) พร้อมสำเนา
            12. กรณีครูโรงเรียนเอกชน ให้แนบเอกสารเพิ่ม 6 ฉบับ ดังนี้
                 - หนังสือจัดตั้งโรงเรียน
                 - หนังสือแต่งตั้งครูใหญ่
                 - หนังสือใบแต่งตั้งให้ทำการแทนครูใหญ่ (ถ้ามี)
                 - ใบบรรจุครู
                 - ใบอนุญาตให้เป็นครู
                 - ใบรับรองเงินเดือนปัจจุบัน
            13. กรณีพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา
                 - คำสั่งเรื่องการจ้าง
                 - สัญญาจ้าง

   

*****************